A Blogger by Beamcool

ชายไทยเป็นเกย์ร้อยละ ๑๐ แต่ไม่กล้าเปิดเผยแอบแฝงกว่าร้อยละ ๖๐

Tuesday, June 2, 2009


สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ -- ๔ พ.ย. -- เสวนาเกย์วิชาการ เสนองานวิจัย ดร.ทศวร ระบุสังคมเป็นผู้ยัดเยียดความเป็นอื่นให้กับชาวเกย์ ทั้งที่ความจริงเกย์ก็คือมนุษย์ปกติ ที่สร้างประโยชน์ให้สังคมได้ไม่แตกต่างจากชายจริงหญิงแท้ ขณะที่ประธานองค์กรฟ้าสีรุ้งฯเผย ร้อยละ ๑๐ ของชายไทยปัจจุบันเป็นเกย์ แต่กว่าร้อยละ ๖๐ แอบแฝงพฤติกรรม เตรียมจัดงานนัดพบชาวเกย์ มอบรางวัลบุคคลส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม ระบุเลือกอยู่ระหว่าง ร.ต.อ.ปุระชัย กับ อาจารย์จอน

องค์กรฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย จัดเสวนาเกย์วิชาการครั้งที่ ๒ ที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยช่วงเช้า ตั้งแต่ ๑๐.๓๐–๑๓.๐๐ น. เป็นการนำเสนอวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของ ผศ.ดร.ทศวร มณีศรีขำ จากภาควิชาการแนะแนวและจิตวิทยาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒฯ เรื่อง "การสร้างความเป็นอื่นให้กับเกย์" ซึ่ง ผศ.ดร.ทศวร เป็นผู้นำเสนอเอง โดยกล่าวว่า วิทยานิพนธ์ดังกล่าว ได้ศึกษาด้วยการเข้าถึงปัญหา โดยเก็บข้อมูลจากผู้ที่เป็นเกย์ ซึ่งก็ได้พบว่า การกำหนดความเป็นเพศหรือเพศสภาพในสังคมปัจจุบัน ควรต้องมีการทบทวนและขยายความ เพื่อคลี่คลายให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในสังคม การกำหนดให้คนที่ไม่ใช่ชายจริงหญิงแท้ ต้องถูกเรียกว่า เกย์ เป็นเพียงการกำหนดด้วยกระบวนการทางวาทกรรม ซึ่งก่อให้เกิดความเป็นอื่นให้กับ "เกย์"

ผศ.ดร.ทศวร กล่าวอีกว่า กระบวนการต่าง ๆ นี้ เกิดจากปรากฎการณ์ที่สังคม บุคคลหรือกลุ่มบุคคล ไม่เห็นด้วยหรือไม่ยอมรับการเป็นเกย์ จึงได้สร้างวาทกรรมเพื่อสะท้อนและชี้ให้เห็นว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง ผ่านกลไกในรูปแบบความคิด ความเห็น การส ร้าง ภายใต้ศาสตร์สาขาต่าง ๆ ทั้งศาสนา จิตวิทยา การแพทย์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และสังคมศาสตร์ จึงส่งผลให้เกย์มีพื้นที่เฉพาะและจำกัด มีโอกาสที่จะใช้ชีวิต ใช้ศักยภาพและมีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมได้น้อยกว่ากลุ่มบุคคลที่สังคม เรียกว่า ชายจริง หญิงแท้ ภาพลักษณ์ของเกย์จึงเป็นภาพลบในสายตาบุคคลทั่วไป และถูกจับจ้อง ทั้งที่ความจริง เกย์ก็คือมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความสามารถจะใช้ร่างกาย สติปัญญา และศักยภาพให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ดี ไม่มีข้อแตกต่างจากหญิงชาย

"เกย์ถูกทำให้เป็นอื่น ผ่านสถาบันต่างๆ ทั้งครอบครัว สังคม และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน ทั้งที่สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงความจริงสมมติ ที่ผู้ที่คิดครั้งแรกกำหนดให้สิ่งนั้นสิ่งนี้ต้องเรียกอย่างนั้น และเมื่อมีการกำหนดว่าโลกนี้มีเพียง ๒ เพศ ชาย-หญิง ใครเป็นเกย์ก็เลยถูกจับจ้อง ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ผมให้คำนิยามของเกย์ว่า กลุ่มคนที่รักเพศเดียวกัน ไม่ใช่รักร่วมเพศ เพราะต่างกัน เกย์บางคนไม่ได้มีความรักแล้วต้องมีการร่วมเพศ จึงควรเข้าใจส่วนนี้ด้วย"
ผศ.ดร.ทศวร กล่าว

ผศ.ดร.ทศวร กล่าวด้วยว่า การจัดทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ เพื่อต้องการเปิดกว้าง ให้เป็นทางเลือกแก่สังคม ได้ฉุกคิด ได้ตระหนักและเปิดวิสัยทัศน์ทางปัญญาให้กับทุกคนในอีกมุมมองเกี่ยวกับกลุ่ม คนที่สังคมเรียกว่าเกย์ว่า ในความเป็นจริง เขาก็คือมนุษย์และสามารถทำประโยชน์ให้แก่สังคมได้เหมือนกัน สังคมปัจจุบันจึงถึงเวลาทบทวน มุมมองที่ว่า เกย์เป็นคนผิดปกติหรือเบี่ยงเบน นอกจากนี้ยังหวังให้วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ ทำให้สังคมและสถาบันต่าง ๆ ที่เป็นคนส่วนใหญ่ได้ทบทวน กฎเกณฑ์ กติกา และระเบียบแบบแผนที่สร้างขึ้นมาครอบงำ กดขี่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่แตกต่างออกไปจากตน

ด้าน นายกมลเศรษฐ์ เก่งการเรือ ประธานองค์กรฟ้าสีรุ้งฯ กล่าวว่า จากการทำงานคลุกคลีในกลุ่มชาวเกย์ และสามารถรวบรวมข้อมูลได้ว่า ในสังคมไทยมีมากถึงร้อยละ ๑๐ ของประชากรชายที่เป็นเกย์ โดยเป็นเกย์ที่แอบแฝงสูงถึงกว่าร้อยละ ๖๐ ที่กล้าเปิดเผยไม่ถึงร้อยละ ๔๐ ซึ่งข้อมูลนี้ใกล้เคียงกับองค์การอนามัยโลก เกย์ในสังคมไทยถูกกีดกันและทำให้เป็นอื่น ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ในสังคม การทำงาน ซึ่งพบว่า ผู้ที่เป็นเกย์ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เพราะถูกจำกัดที่ความเป็นเกย์ ส่วนใหญ่เกย์ไทยจะกล้าเปิดเผยก็ต่อเมื่อมีความพร้อม มีหน้าที่การงานที่ประสบความสำเร็จแล้ว มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในฝีมือการทำงาน เช่น ศิลปินดัง นักวิชาการที่ประสบความสำเร็จ

"ความเป็นอื่นเกิดจากสังคมยัดเยียด ที่ร้ายคือ แม้แต่พ่อแม่ก็มักสร้างความเป็นอื่นให้เกิดกับลูกที่เป็นเกย์ ไม่ยอมรับเพราะสังคมไม่ยอมรับ จึงทำให้ลูกต้องออกจากครอบครัว ทั้งที่ความจริง หากพ่อแม่เข้าใจ และให้โอกาส ไม่ตัดสินแทนว่า ลูกเป็นเกย์แล้วเป็นทุกข์ แต่เข้าใจว่า เขาอาจมีความสุข ก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขในครอบครัว" ประธานองค์กรฟ้าสีรุ้งฯ กล่าว และว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่รู้ตัวว่าเป็นเกย์มักไม่เอ่ยปากบอกพ่อแม่ เพราะกลัวพ่อแม่เสียใจ รับไม่ได้ ดังนั้น พ่อแม่ปัจจุบันต้องสังเกตลูก เข้าหา พูดคุย เพื่อให้รู้และเข้าใจความต้องการ ซึ่งดีกว่าการไม่ยอมรับแล้วพยายามเปลี่ยนลูกให้กลับมาถูกเพศตามสังคม ผลักดันให้มีครอบครัวแล้วก็อยู่กันไม่ได้เกิดครอบครัวล้มเหลวอีก

ประธานองค์กรฟ้าสีรุ้งฯ กล่าวด้วยว่า องค์กรฟ้าสีรุ้งฯ ก่อตั้งขึ้นมา ๒ ปี มีสมาชิกกว่า ๑,๒๐๐ คน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีในกลุ่มชาวเกย์ให้อยู่ร่วมในสังคมได้ อย่างมีความสุข และดูแลสุขภาพ คุณภาพชีวิตชาวเกย์ด้วยกันให้พ้นจากโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคเอดส์ ซึ่งเป็นโรคที่ชาวเกย์ต้องสังเวยชีวิตไปมาก แต่หลังการรณรงค์ก็ช่วยลดอัตราป่วยและตายได้เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มไม่ได้มุ่งหวังเรียกร้องให้สังคมยอมรับ แต่เชื่อว่า หากชาวเกย์คิดดี ทำดี ทำประโยชน์ต่อสังคม ต่อไปสังคมก็จะยอมรับได้เอง ทั้งนี้ ในวันที่ ๑๖ พฤศจิกายนนี้ องค์กรฯจะจัดงานปาร์ตี้ชาวเกย์ที่โรงแรมรอยัล เบญจา สุขุมวิท เพื่อรวมตัวสมาชิก และเปิดกว้างให้บุคคลทั่วไปได้เข้าร่วมรับรู้และเข้าใจกลุ่มเกย์มากขึ้น โดยจะเริ่มงานในเวลา ๑๘.๓๐ น.

"งานวันที่ ๑๖ พ.ย.นี้ พวกเราจะมีการมอบรางวัล ๓ รางวัล ได้แก่ รางวัลบุคคลที่ส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเลือกระหว่าง ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ กับ อาจารย์จอน อึ้งภากรณ์ นอกจากนี้มีรางวัลสื่อที่ส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม และรางวัลเกย์ที่เป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม รางวัลเหล่านี้พวกเราจะมอบให้ ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกจะรับหรือไม่ เราไม่สนใจ แต่เราจะเชิญมาร่วมงาน หรือนำไปมอบให้" ประธานองค์กรฟ้าสีรุ้งฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายของการเสวนา เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของชาวเกย์ในหัวข้อ "ชุมนุมเกย์: เรื่องเล่าอันซ้อนทับกันกับการปะทะสังสันทน์ของตัวตน" โดย นายทวีวัฒน์ โปร่งจิต เลขาธิการบางกอกไพรด์ กล่าวยอมรับว่า การเป็นเกย์เกิดได้จากสิ่งแวดล้อมในการเลี้ยงดู มีอิทธิพลอย่างมาก แต่เกย์ก็สามารถทำประโยชน์ให้กับสังคม และคิดว่าจะเป็นที่ยอมรับได้ ขณะที่ นายเทียนชัย เหล่าเกิด กล่าวว่า ความเป็นอื่นที่สังคมยัดเยียดให้ ทำให้คนในสังคมมักคิดว่า เกย์ต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ โดยเล่าประสบการณ์ในการถูกเกณฑ์ทหารว่า ระหว่างที่ฝึกในกองทัพฯ สังคมมีส่วนมากในการผลักดันว่า เมื่อตุ้งติ้งแล้วก็ต้องเต้นเก่ง ร้องเพลงเก่ง วี๊ดว้าย ขณะที่ภาพของเกย์เรียบร้อยก็มี ลักษณะวี๊ดว้าย หรือแสดงออกนั้นเป็นบุคลิกส่วนบุคคล ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความเป็นเกย์

ด้าน นายษัฑวัฒก์ จิตราภิรมย์ หัวหน้าฝ่ายวิชาการ องค์กรฟ้าสีรุ้งฯ กล่าวว่า คนที่เกย์ก็แค่คนที่มีเพศรสแตกต่างจากคนอื่น ไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ และปัจจุบัน กรมสุขภาพจิตก็มีหนังสือมาถึงองค์กรที่เกี่ยวกับชาวเกย์แล้วว่า เกย์ไม่ใช่คนที่ผิดปกติทางจิต แต่ในทางปฏิบัติก็ยังพบความคิดว่า เกย์คือคนที่จิตผิดปกติ

ที่มา : ไทยจีฮาวดอทคอม

0 comments:

Post a Comment