A Blogger by Beamcool

สปามือและเท้า

Wednesday, August 12, 2009

มาสก์ หน้าจนสวยใสไร้ริ้วรอยแล้วจะยอมปล่อยให้มือไม้ไร้ชีวิตชีวาได้อย่างไร สละเวลาเพียงแค่ 60 นาทีเพื่อปรนนิบัติมือและเท้าให้นุ่มนวลชวนมองน่าสัมผัสกันเถอะ


ก่อน อื่นล้างยาทาเล็บเก่าที่ติดอยู่บนเล็บทิ้งเสียก่อน โดยใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บแตะปลายเล็บทิ้งไว้สักพักแล้วลูบออก แต่ไม่ต้องถึงขั้นขัดถูเล็บรุนแรงมากจนเกินไป หลังจากนั้นตะไบเล็บให้ได้รูปสวยตามต้องการ และควรตะไบไปในทางเดียวกัน ไม่ควรตะไบย้อนกลับไปกลับมา ส่วนจะเลือกตัดหรือตะไบเป็นแบบปลายตัดตรงหรือแบบปลายแหลมก็ได้ทั้งนั้น แต่ขอบอกว่าตอนนี้แบบที่กำลังฮิตติดใจกันอยู่เป็นแบบเล็บสั้นปลายตัดตรง


หลัง จากนั้นแช่ทั้งเล็บมือและเล็บเท้าในน้ำนมผสมน้ำอุ่นสัก 10 นาทีด้วยส่วนผสมน้ำอุ่น 2 ส่วนต่อนมอุ่น 1 ส่วน เนื่องจากน้ำนมอุ่นๆ นี้จะเป็นตัวช่วยให้เซลล์หนังกำพร้าที่หยาบกร้านนุ่มนวลลง ทำให้ง่ายต่อการขจัดเซลล์หนังกำพร้าเหล่านี้ออกไป ระหว่างแช่ก็เหยาะน้ำมันมะกอกลงไปด้วยสัก 5-6 หยด แต่ถ้าเป็นคนที่มีเหงื่อออกค่อนข้างมากบริเวณมือและเท้าควรหลีกเลี่ยงการแช่ น้ำนม โดยอาจเปลี่ยนเป็นแช่ในน้ำอุ่นผสมน้ำมันมะกอกสัก 5-6 หยดแทน


ลำดับ ต่อมาจึงใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดผิวหยาบกร้าน กรณีที่ส้นเท้าค่อนข้างกร้านอาจขัดด้วยหินภูเขาไฟเบาๆ แต่ไม่แนะนำให้ใช้หินขัดหรือตะไบส้นเท้าเกินเดือนละ 2 ครั้ง เพราะถ้าหากผิวถูกเสียดสีกับของแข็งบ่อยๆ จะยิ่งเพิ่มการผลิตตัวที่หนาขึ้นกว่าปกติ หลังจากนั้นให้อบมืออบเท้าในผ้าอุ่นๆ สัก 1-2 นาที แล้วลงน้ำมันบำรุงผิวหรือมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น


เมื่อ เล็บสวยดูสุขภาพดีสมใจแล้ว ทีนี้จะแต่งเติมสีสันหรือลวดลายอะไรก็เต็มที่ได้เลย แต่ต้องทารองพื้นเล็บด้วยเบสโค้ตเสมอ นอกจากเป็นการป้องกันเล็บจากน้ำยาแล้ว เวลาล้างออกจะได้ล้างง่ายยิ่งขึ้นด้วย หลังจากนั้นทาเล็บโดยเริ่มแต้มบางๆ ที่ปลายเล็บก่อน เพราะเป็นส่วนที่สีจะลอกออกง่ายที่สุด จากนั้นจึงเริ่มทาจากโคนเล็บขึ้นมา


เมื่อ ทาเสร็จเราอาจใช้ไม้พันสำลีก้านเล็กๆ หรือคอตตอนบัดแตะน้ำยาล้างเล็บ ค่อยๆ เช็ดรอบๆ เล็บ แล้วจึงค่อยลงน้ำยาเคลือบสีเล็บหรือท็อปโค้ต และถ้าอยากให้สีสันติดทนนานๆ ควรลงน้ำยาเคลือบสีเล็บวันเว้นวัน จะช่วยปกป้องสีเล็บไม่ให้หลุดลอกไปได้ทั้งสัปดาห์เลยทีเดียว

ที่มา : ผู้หญิงน่ะค๊ะดอทคอม

0 comments:

Post a Comment